ชลประทานชี้แจง ปชช.ที่ได้รับผลกระทบหลังถูกเวนคืนหลบการสร้างเขื่อน

buy stromectol online in u.k นายโบว์แดง ทาแก้ว ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ สำนักชลประทานที่ 11 กรมชลประทาน พร้อมเจ้าหน้าที่นิติกร กรมชลประทาน ได้ลงพื้นที่ชี้แจงชาวบ้านชุมชนคลองตัน คลองสิบสาม ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี หลังได้รับผลกระทบจากการเวนคืนพื้นที่ของกรมชลประทาน เพื่อการก่อสร้างเขื่อนกั้นคลองส่งน้ำ และประตูระบายน้ำคลอง 13 ป้องกันน้ำท่วม

ด้านนายโบว์แดง ทาแก้ว ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ กล่าวว่า เนื่องจากมีชาวบ้านที่ประสบปัญหารการสร้างประตูระบายน้ำคลอง 13 และเขื่อนกั้นคลอง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรกชาวบ้านที่รวมกลุ่มเป็นสหกรณ์ เมื่อรวมกลุ่มแล้วให้ทำเรื่องมาถึงกรมชลประทานว่าจะขอใช้พื้นที่เท่าไร โดยขณะนี้มีจำนวน 12 ราย จากนั้นกรมชลประทานจะทำพื้นที่จำนวนนี้ส่งคืน กรมธนารักษ์ จากนั้นกรมธนารักษ์จะให้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ซึ่งเป็นผู้ขอเช่าในนามสหกรณ์ แล้วนำมาจัดสรรบ้านให้ประชาชน ต่อไป ส่วนในตัวแบบบ้านนั้นต้องสอบถามทาง พอช. เนื่องจากมีแบบบ้านที่เหมาะสมกับแต่ละครัวเรือนหลายขนาด ดังนั้นการเก็บการออมจึงต่างกัน ส่วนกลุ่มที่สองเป็นกลุ่มของชาวบ้านที่ไม่เข้าร่วมการออมเงินสหกรณ์ ทางกรมชลประทานจะทำเรื่องถึงจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อประชุมหาทางออก ประกอบด้วย จังหวัด ที่ดิน ธนารักษ์ พอช. ชลประทาน ตัวแทนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อหารือร่วมกัน เมื่อเกิดกรณีแบบนี้แล้วจะหาทางออกอย่างไร เนื่องจากกรมชลประทานเป็นเพียงเสมือนผู้จัดการดูแลที่บริเวณนี้เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ที่จะอนุญาตในการก่อสร้างให้ผู้อยู่อาศัย ทั้งนี้จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อประชุมหารือร่วมกันกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบอีกครั้ง

จากการสอบถาม นายสมบัติ เทียนถวาย อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ 5 ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี กว่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านมีความลำบากมากเลย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการรื้อบ้านเพื่อหลบการก่อสร้างเขื่อนกั้นริมคลองและประตูระบายน้ำคลอง 13 เพื่อป้องกันน้ำท่วม ปัจจุบันตนเองได้ไปกู้ยืมเงินเป็นหนี้นอกระบบเพื่อนำมาสร้างบ้านใหม่ ในพื้นที่ของกรมธนารักษ์ หากจะมาถูกให้รื้ออีกรอบ พวกเราก็ไม่ไหวแล้ว พวกเราชาวบ้านประกอบอาชัพรับจ้างเป็นส่วนให้ทุกวันนี้หาเช้ากินเย็นยังไม่พอเลย อยากให้หน่วยงานไหนก็ได้ที่พอจะช่วยพวกเราได้ ก็ขอให้ช่วยด้วย
ทางด้าน นายสุรัตน์ สีหอม อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 30/1 หมู่ 5 ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า พวกเราเป็นกลุ่มที่ออมเพื่อเพื่อที่จะมีบ้านอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เบื้องต้นมีทั้งหมด 12 ราย มีเงินออมรวมแล้วกว่า 1 แสนบาท โดยออมเดือนละ 200-500 บาทบ้างแล้วแต่กำลัง ที่พวกเราออมเพื่อที่จะมีบ้านก็เพื่อลูกหลานในภายภาคหน้า …