วงการสีกากี สุดฉาวอุ้มตัวรีดค่าไถ่กันเอง

Tayshet จากกรณี ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป) สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รอง ผบช.ภ.9 ที่สำนักงานตำรวจภูธร ภาค 9 ส่วนหน้า จ.ยะลา เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 62 ที่ผ่านมา หลังจากที่ถูกกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวว่า เป็นตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 รวมจำนวนกว่า 10 คน ยึดอาวุธปืนประจำกาย 2 กระบอก และอุ้มขึ้นรถกระบะพร้อมกับเพื่อนอีก 5 คน ไปเซฟเฮาส์แห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนจะทำการเรียกค่าไถ่รวมกันเป็นเงินจำนวน 5 แสนบาท ซึ่งทางผู้เสียหายได้ต่อรองจนเหลือ 2 แสนบาท โดยให้เป็นเงินสดและจำนำรถเก๋งส่วนตัว 1 คัน จึงถูกปล่อยตัวพร้อมกับคืนอาวุธปืน ต่อมา ฝ่ายผู้เสียหายมีการติดต่อขอไถ่ถอนรถคืน แต่กลับถูกปฏิเสธพร้อมบอกว่าได้ขายต่อให้แก๊งค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.ยะลา แล้ว ในราคา 120,000 บาท รวมทั้งมีการส่งข้อความข่มขู่จากหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ติดต่อประสานงานระหว่างชุดอุ้มกับทางกลุ่มผู้เสียหาย โดยบอกให้จบเรื่อง หากไม่จบ ก็จะมีการเล่นงานด้วยวิธีการต่างๆ นานา และยัดยาเสพติดใส่ในรถเก๋ง เพื่อให้หลุดจากวงการตำรวจ จนทางครอบครัวและญาติที่เป็นตำรวจด้วยกันไม่สามารถที่จะยินยอมต่อไปได้ กระทั่งมีการเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับผู้บังคับบัญชา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ทาง ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป) สภ.กระพ้อ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ผู้เสียหาย พร้อมกับมารดา ได้เดินทางนำเอกสารหลักฐานทั้งบันทึกข้อความขอความเป็นธรรม รวมทั้งหลักฐานจากการแคปหน้าจอการสนทนากับคนร้าย และหลักฐานทางการเงินต่างๆ เข้าแจ้งความกับทาง ร.ต.อ.เดชาวัต มากคำ พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อให้ดำเนินคดีกลับกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวว่า เป็นตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 ที่อุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่ดังกล่าว ในฐานความผิด 4 ข้อหา คือ ร่วมกันทำความผิดต่อเสรีภาพ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง, ร่วมกันเรียกค่าไถ่ และร่วมกันกรรโชกทรัพย์ โดยเบื้องต้นนั้นทราบตัวแล้ว 4 ราย เป็นตำรวจทั้งชั้นประทวนและสัญญาบัตร รวม 3 นาย ส่วนอีกรายเป็นหญิงสาวที่ทำหน้าที่เป็นคนติดต่อประสานงาน และอ้างว่าเป็นภรรยาตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถที่เปิดเผยรายชื่อในขณะนี้ได้

หลังจากนั้นทางพนักงานสอบสวนได้พาตัว ส.ต.ท.สัญลักษณ์ ไปตรวจสอบและชี้จุดเกิดเหตุ โดยจุดแรกอยู่ภายใน ซ.18 ถ.รัตนอุทิศเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่ทาง ส.ต.ท.สัญลักษณ์ ได้ขับรถเก๋งมาส่งเพื่อนที่บ้านพัก และพบกับกลุ่มคนที่อ้างตัวว่า เป็นตำรวจ ก่อนที่จะมีการชุลมุนกันขึ้น และทั้ง 6 คน ถูกอุ้มขึ้นท้ายรถยนต์กระบะมุ่งหน้าไปยังเซฟเฮาส์แห่งหนึ่งภายใน ซ.5 ถ.ท่าไทร-บางหยี ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 15 นาที ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุจุดที่ 2 เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนยังได้มอบหมายให้ทาง ส.ต.ท.สัญลักษณ์ นำสำเนาบันทึกแจ้งความเข้ายื่นต่อตำรวจ สภ.บางกล่ำ จ.สงขลา หลังจากที่ทาง ส.ต.ท.สัญลักษณ์ สืบทราบและตามหาจนพบว่า รถยนต์เก๋งส่วนตัวของตนเองนั้น ถูกขายต่อมาอีกทอด และมีผู้ครอบครองอยู่ในพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เพื่อให้ทางตำรวจ สภ.บางกล่ำ เข้าตรวจสอบและแจ้งให้กับผู้ที่ครอบครองทราบว่า เป็นรถที่อยู่ในระหว่างการดำเนินคดี และต้องนำมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สภ.หาดใหญ่ จนกว่าคดีความจะแล้วเสร็จ

ส่วนทางผู้เป็นแม่และญาติที่เป็นตำรวจของ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ นั้น ได้ของให้ทางผู้บังคับบัญชา รวมทั้งตำรวจ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ช่วยให้ความยุติธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย มีการข่มขู่คุกคามตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นตำรวจเหมือนกันอีกด้วย

ด้าน พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ได้ทราบเรื่อง และสั่งให้การตั้งคณะกรรมการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และขอเวลาสะสางเรื่องนี้ แต่อาจจะยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลไปได้มากกว่านี้ แต่ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย และหากมีความผิดจริงดังที่ปรากฏก็จะต้องได้รับโทษทั้งทางอาญาและวินัยอย่างถึงที่สุด…

ขอขอบคุณที่มา ไทยรัฐ