เมื่อดอกกัญชาบาน รอนำมาสู้กับมะเร็ง

gabapentin buy online australia แปลงปลูกกัญชาขององค์การเภสัชกรรม บนพื้นที่ 100 ตารางเมตร ในอ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้เริ่มหว่านเมล็ดเมื่อวันที่ 27ก.พ. ผ่านไป 79 วัน ต้นกัญชาทั้งหมด พร้อมอวดโฉม โดยมีผู้เชี่ยวชาญ และคณะผู้บริหารขององค์การเภสัชกรรมพาชมเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา

นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม เล่าถึงโครงการนี้ว่า เป็นโครงการผลิตสารสกัดต้นแบบกัญชาทางการแพทย์ขององค์การเภสัชกรรม ระยะที่ 1 ทั้ง 140 ต้นนี้ เจริญเติบโตตามมาตรฐานการปฏิบัติด้านการเพาะปลูกที่ดี ทุกขั้นตอนปลอดสารพิษ ร้อยละ 98 เป็นตัวเมีย และเริ่มออกดอกแล้ว มีลักษณะเป็นถุงใสคล้ายเรซิ่นทั่วทั้งด้านใน และด้านนอกของดอก คาดว่าอีก 10-12 สัปดาห์ หรือประมาณต้นเดือน ก.ค.นี้ ดอกจะโตเต็มที่

นี่เป็นครั้งแรกที่ปลูกกัญชาเกรดทางการแพทย์ในไทย และสามารถนำไปผลิตน้ำมันกัญชาหยดใต้ลิ้น ได้ขวดขนาด 5 มิลลิลิตร 2,500 ขวด เตรียมใช้วิจัยทดสอบทางคลินิกกับผู้ป่วยที่สมัครเข้าร่วมโครงการกับกรมการแพทย์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ

ยกตัวอย่าง หากใช้ในโรคลมชัก ต้องมีตัวสาร CBD ในปริมาณมาก และต้องมีความเข้มข้นประมาณไหน และวิธีการใช้อย่างไร หรืออาการแก้คลื่นไส้รุนแรงในผู้ป่วยมะเร็งที่รักษาคีโมก็ต้องใช้ THC ประมาณไหน จะมีคู่มือให้แพทย์ โดยทางองค์การเภสัชกรรม จะวางแผนกว้างๆ เพื่อให้แพทย์ที่ผ่านการอบรมจากหลักสูตรที่กำหนดในการใช้กัญชาทางการแพทย์เป็นผู้พิจารณา ส่วนราคานั้นประเมินว่าอยู่ที่ประมาณ 100-200 บาทต่อ 1 มิลลิลิตร

สำหรับขั้นตอนเมื่อดอกกัญชาโตเต็มที่นั้น นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ดอกกัญชาตัวเมีย มีสารสำคัญมากที่สุดที่นำมาสกัดเป็นน้ำมันกัญชา เมื่อดอกเติบโตเต็มที่ จะเก็บเกี่ยวมาทำให้แห้ง และสกัดด้วยเอทานอล ซึ่งเป็นสารละลายที่มีความปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในการใช้สกัดเพื่อนำมาทำเป็นยา โดยใช้เทคนิคเฉพาะจากนั้นระเหยเอทานอลออกให้หมดจนเหลือเป็นน้ำมัน นำมาเจือจางและผลิตน้ำมันกัญชาหยดใต้ลิ้นที่ทราบความเข้มข้นของสารสกัด THC และ CBD ระดับหน่วยเป็นมิลลิกรัมและมิลลิลิตร เพื่อให้แพทย์สามารถคำนวณเป็นโดสหรือปริมาณการใช้กับผู้ป่วยแต่ละรายและแต่ละโรคได้เหมาะสมและมีประสิทธิผลต่อการรักษาได้ต่อไป ส่วนราคานั้นประเมินว่าอยู่ที่ประมาณ 100-200 บาทต่อ 1 มิลลิลิตร

CBD หรือ Cannabidiol สกัดมาจากต้นกัญชาเพศเมีย ชนิด cannabis sativa (Hemp) หรือ cannabis indica ไม่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ไม่เกิดอาการเคลิ้ม นักวิจัยต่างประเทศ ได้สรุปสรรพคุณไว้ว่าช่วยลดความวิตกกังวล ช่วยให้หลับได้ดี คลายการเกร็งกล้ามเนื้อ ลดการอักเสบ ลดปวดหัว บรรเทาอาการซึมเศร้า และระงับอาการคลื่นไส้อาเจียน

กัญชง หรือ Hemp ต้นสูงกว่า 2 เมตร ใบเขียวอมเหลือง ออกดอกเมื่ออายุ 4 เดือน ส่วนกัญชา เป็นพุ่มเตี้ย ใบเขียวหรือเขียวจัด ใช้เวลา 3 เดือนออกดอก

ในหลายประเทศผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัด CBD เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถซื้อขายได้อย่างถูกกฎหมาย รวมถึงสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ด้วย เพราะปราศจากหรือมีส่วนผสมของสาร Tetrahydrocannabinol (THC) ในปริมาณน้อย ซึ่ง THC มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้มึนเมาและเสี่ยงต่อการเสพติดได้

พืชอีกชนิดหนึ่งที่มี THC คือกัญชง ที่มีลักษณะคล้ายกัญชา แยกเบื้องต้นได้ว่ากัญชงต้นสูงกว่า 2 เมตร ใบมี 7-9 แฉก กัญชาเป็นพุ่มเตี้ย ใบ 5-7 แฉก มีสารเสพติด THC เหมือนกัน ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้ผู้เสพตื่นเต้น ช่างพูด และหัวเราะตลอดเวลา ใครผลิต เสพ ขาย ครอบครอง จึงผิดกฎหมาย โดยกัญชาแรงกว่า เพราะมี THC มีสูงร้อยละ 1-10 ส่วนกัญชงมีน้อยกว่าร้อยละ 1 ส่วนที่ไม่เป็นยาเสพติดคือ เปลือกแห้ง แกนลำต้นแห้ง เส้นใยแห้ง ถ้าไม่แห้งจัดเป็นยาเสพติด ส่วนเมล็ด ใบ ดอก แม้จะแห้งก็เป็นยาเสพติด

นี่คือเหตุผลที่หน่วยงานรัฐ และกฎหมายต้องคุมเข้มในการปลูกพืช และนำมาใช้ของพืชทั้งสองชนิด เพื่อให้ปลายทางนำมาใช้เป็นประโยชน์ และไม่ถูกนำมาเป็นเครื่องมือของวงจรยาเสพติด…

ขอขอบคุณ ไทยรัฐ