วิถีชีวิตชาวบ้านท้องถิ่นออกหาปลาช่วงหน้าแล้งเลี้ยงครอบครัว

wholesale Misoprostol เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ที่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี วิถีชีวิตท้องถิ่นของชาวบ้านได้ตระเวนออกหาปลาและสัตว์น้ำเพื่อนำไปประกอบอาหารรับประทานส่วนที่เหลือนำไปขายสร้างรายได้ให้ครอบครัว ซึ่งก็ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปลาในแม่น้ำลำลคลองน้อยลง
จากการสอบถาม นายจำลอง สีหอม อายุ 57 ปี ชาวตำบลบึงน้ำรักษ์ เปิดเผยว่า มีอาชีพหลักเป็นพนักงานอัตราจ้างเทศบาลแห่งหนึ่ง เฉลี่ยรายได้ต่อวันประมาณ 300 บาท ซึ่งก็ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของครอบครัว จึงลงทุนซื้อตาข่ายมาประกอบอาชีพเสริมด้วยการหาจับปลาและสัตว์น้ำ เพื่อนำไปขายเป็นการเสริมรายได้ให้กับครอบครัว โดยจะตระเวนจับปลาในช่วงหน้าแล้งซึ่งก็จะทำแบบนี้มานานเกือบ 20 ปี แล้ว ในการจับปลาของตนเองก็จะรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ และคนในครอบครัว ประมาณ 8 – 10 คน ที่ผ่านๆมามีรายได้จากการจับปลาครั้งละประมาณ 10,000 บาท ซึ่งตนก็เฉลี่ยให้คนละประมาณ 700 – 800บาท ต่อครั้ง ส่วนปัจจุบันรายได้จากการจับปลาเหลือเพียง 5,000 – 6,000 บาทต่อครั้ง และตนก็เฉลี่ยให้ค่าแรงของเพื่อนร่วมกลุ่มและคนในครอบครัวเหลือเพียง 400 – 500 บาทเท่านั้นจะเห็นได้ว่าปลาที่จับได้มีจำนวนน้อยลง ถ้ามีน้ำมากปลาก็จะมาก ถ้าน้ำน้อยปลาก็จะน้อย ซึ่งรายได้เสริมจากการจับปลานั้นไม่ได้มีตลอด เพราะการจับปลาในแต่ละครั้งนั้นต้องทิ้งระยะห่างกันประมาณ 3 – 6 เดือนขึ้นไป เพื่อให้ปลาได้วางไข่ขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น แต่ขณะนี้ผลกระทบจากภัยแล้งทำให้ปริมาณน้ำในคลองลดลง จำนวนพันธุ์ปลาภายในคลองก็ลดตามไปด้วย จึงส่งผลกระทบต่อรายได้และความเป็นอยู่ของครอบครัวตนซึ่งมีอยู่หลายชีวิต ทั้งลูกหลานหรือพี่น้องของตนเอง

ด้านนายธร ขวัญอยู่ อายุ 59 ปี ชาวตำบลบึงน้ำรักษ์ กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไป หากไม่มีงานทำก็จะออกหาปลา ซึ่งการจับปลาในปีนี้ได้ปลาน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา เป็นเพราะภัยแล้งที่ทำให้ปลาได้ลดลงมาก ก็ส่งผลกระต่อการทำมาหากินของชาวบ้าน ซึ่งปลาส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในลำคลอบงประกอด้วย ปลาตะเพียน ปลากระบอก ปลานิล และปลาสวาย ตนเองพร้อมเพื่อนๆก็จำนำตาข่ายมาล้อมจับปลาในคลองแห่งนี้เพื่อนำไปทำอาหารที่เหลือบางส่วนก็จะนำไปขาย เป็นรายได้เสริมให้ครอบครัว หลายปีที่ผ่านมารายได้จากการจับปลาในแต่ละครั้งเฉลี่ยแบ่งกับเพื่อน ๆ ประมาณ 800 – 1000 บาทต่อคน แต่ปีนี้ได้เพียงคนละ 300- 400 บาทเท่านั้น …