“วันนอร์” แนะนายกฯ ประกาศลาออก ขู่หากศาลรับเรื่องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

Medford วันที่ 18 ก.ย. 2562 ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้อภิปรายในเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า จะขออภิปรายประเด็นเดียวโดยไม่ซ้ำกับผู้อภิปรายคนอื่น คือ การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนถือเป็นการผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ตามมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 ที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อ เม.ย. 2562 ที่ผ่านมา ที่สำคัญคือกำหนดให้มีคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม (ก.ม.จ.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานคณะกรรมการ จึงอยากให้รับรู้รับทราบว่าถ้าคนที่เป็นประธานไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมและผิดอย่างร้ายแรง ประเทศนี้จะอยู่ได้อย่างไร

ทั้งนี้ คำว่าร้ายแรง มีการกำหนดโดยมาตรฐานที่ศาลรัฐธรรนูญไว้ และในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ก็ระบุว่ารัฐมนตรีต้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ถ้าขาดข้อนี้จะเป็นรัฐมนตรีได้อย่างไร และในที่ประชุมศาลฎีกา ออกระเบียบว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ผู้ถูกร้องต้องขึ้นศาลฎีกา และมีคณะกรรมการเรียกว่าผู้ไต่สวนอิสระ หากศาลฎีการับไว้ผู้ถูกร้องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ต้องมีคนเป็นกลางในทางการเมือง คนที่เกรงใจนายกรัฐมนตรีต้องไม่ถูกแต่งตั้ง ต้องไต่สวนโดยเปิดเผย ขอชื่นชมว่าเป็นความคิดที่ดี

นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวในช่วงท้ายว่า อยากช่วยนายกรัฐมนตรี อยากให้กล่าวว่า “ผมขอลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป” เพราะการลาออกไม่ได้หมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปไม่ได้ เสียงปริ่มน้ำอย่างไร ก็มี 250 เสียงช่วยอยู่ดี อย่างไรก็ต้องได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ เพื่อจะได้โละสิ่งต่างๆ ที่ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ หมายถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอโปรดเกล้าฯ ใหม่ คนที่ปัญหาก็ตัดออกไป ท่านตัวเบา ไม่จมน้ำง่ายๆ เอาสิ่งที่ถ่วงออก เข้าไปถวายสัตย์ปฏิญาณใหม่ให้ครบถ้วนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ฝ่ายค้านจะไม่ติดใจ แต่ถ้าถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้

“แต่เชื่อว่านายกฯ คงไม่ทำ แต่ไม่เป็นไร พวกเราก็จะใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญและระเบียบศาลฎีกา ร้องผ่านประธานสภาฯ สภา ไปยัง ป.ป.ช. และไปสู่คณะผู้ไต่สวนอิสระ ศาลฎีกา และหากรับไต่สวนเมื่อไหร่ นายกรัฐมนตรีและ ครม. ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่”…