วัดโปรยฝนขอแรงศรัทธาไอ้ไข่จากสิชลนครศรีช่วยสร้างโบสถ์หลังใหม่

cheap Lurasidone วัดโปรยฝน คลอง11 หมู่ 12 ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกายเป็นที่วัดเก่าแก่ สร้างขึ้นเมื่อปี 2441 มีอายุที่ยืนยาวกว่า 1 ศตวรรษ มีเนื้อที่ตั้งวัด 12 ไร่ 3 งาน 41 ตารางว่า โดยคุณหญิงสนาน อมาตยกุล และคุณภัทร อมาตยกุล เป็นผู้ร่วมถวายที่ดินและดำเนินการของสร้างวัด เดิมมีนามว่า วัดทรามสงวน ทุกครั้งในห้วงที่วัดมีกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ก็จะมีฝนโปรยลงมาอย่างต่อเนื่อง ต่อมาชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “วัดโปรยฝน” และใช้เป็นนามวัดสืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้ วัดโปรยฝนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2478 และได้ดำเนินการผูกพันธสีมาในปีเดียวกัน มีถาวรวัตถุคือ อุโบสถ กว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร กุฏิสงฆ์ 9 หลัง ศาลาการเปรียญ 1 หลัง มีปูชนียวัตถุที่สำคัยคือ พระประธานในอุโบสถ หน้าตักกว้าง 42 นี้ว แบบสุโขทัย พระพุทธรูปแบบสุโขทัย 2 องค์ พระพุทธชินราชจำลอง พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร และพระพุทธรูปปางอื่นๆอีก 3 องค์ มีเจ้าอาวาสจากอดีตถึงปัจจุบัน 14 รูป

1.พระอาจารย์ทอง ปี 2441-2465

2. พระอธิการเพชร 2466 – 2483

3.พระอาจารย์ปทุม 2484 – 2486

4.พระอาจารย์นิล 2487- 2490

5.พระอาจารย์ชู 2491- 2494

6. พระปิ่น 2494 -2496

7.พระแคล้ว 2497-2500

8.พระอาจารย์มาลัย 2501-2503

9.พระกี่ 2501-2503

10.พระวิง 2504- 2505

11.พระครูธัญวัฒน์ อ.เกตุ 2506-2528

12.พระครูสุวิมลธรรมสุนทร อ.มี 2529- 2545

13.พระครูพิรุณโชติวงศ์ อ.เกษม 2545 -2558

14. พระสมุห์อำนวย โชติปัญโญ 2558 ถึงปัจจุบัน

พระครูสมุห์อำนวย โชติปัญโญ เจ้าอาวาสวัดโปรยฝน นักธรรมโท ป.บส รุ่น 10 วัดพิชัยญาติการาม กรุงเทพมหานคร จบหลักสูตรวิปัสสนากรรมฐาน ศูนย์ธรรมโมลี จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เนื่องจากวัดโปรยฝนเป็นวัดเก่าสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2411 อายุ มากกว่า 121 ปี ซึ่งก็ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะมาอย่างต่อเนื่องจากญาติโยมที่ได้ร่วมบริจาค วัดโปรยฝนมีต้นตะเคียนยืนตาย อายุ 100 กว่าปี ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของเจ้าแม่หยก เจ้าแม่ตะเคียนทอง ที่ผ่านๆมายังมีชาวบ้านและบรรดานักเสี่ยงโชค ที่ทราบข่าว ต่างพากันเข้ากราบไหว้บนบาน และอธิษฐานด้วยความเลื่อมใสและศรัทธาต่อเจ้าแม่หยก เจ้าแม่ตะเคียนทอง การที่มีประชาชนเดินทางมาบนบานศาลกล่าว และกราบไหว้ ต้นตะเคียนตายยืนต้นนั้น ถือว่าเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล แต่จะทำอะไรก็ขอให้ทุกคนมีสติ สำหรับญาติโยมที่ถูกหวยและมีโชคลาภ และเดินทางมาว่าจ้างเด็กนักเรียนให้มารำแก้บนนั้น อาตมาก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นการสร้างรายได้กับเด็กนักเรียนในช่วงปิดเทอม ทำให้เด็กๆ มีรายได้ โดยไม่ต้องไปขอเงินจากพ่อแม่ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือครอบครัวของเด็กอีกทางหนึ่งเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และถือว่าเป็นการสร้างบุญกุศลอีกด้วย

โบสถ์ ถือเป็นอาคารที่สำคัญภายในวัดเนื่องจากเป็นสถานที่ที่พระภิกษุสงฆ์ใช้ทำสังฆกรรมตามพระวินัย เช่นสวดพระปาติโมกข์ ซึ่งแต่เดิมในการทำสังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์จะใช้เพียงพื้นที่โล่ง ๆ ที่กำหนดขอบเขตพื้นที่สังฆกรรมโดยการกำหนดตำแหน่ง“สีมา” เท่านั้น แต่ในปัจจุบันจากการมีผู้บวชมากขึ้น โบสถ์หลังเก่าซึ่งเล็กมีความกว้าง 6 เมตรยาว 12 เมตร ประกอยกับคับแคบในการทำสังฆกรรมตามพระธรรมวินัย อาตมาคณะกรรมการวัดและชาวบ้านมีความเห็นตรงกันว่า ต้องสร้างโบสถ์หลังใหม่ขึ้นมาซึ่งมีความกว้าง 32 เมตร ยาว 46 เมตร งบประมาณในการก่อสร้าง 30 ล้านบาท ซึ่งก็ต้องอาศัยแรงศรัทธาจากญาติโยมในการบริจาคปัจจัยทำบุญร่วมกันสร้างโบสถ์ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีเพื่อเป็นวัตถุถาวรจรรโลงค้ำจุนพระพุทธศาสนาสืบต่อไป
สำหรับไอ้ไข่ที่ชาวบ้านและประชาชนทั่วไปเดินทางมาขอพรและโชคลาภนั้นมีที่มาที่ไป คือในช่วงที่เริ่มก่อสร้างโบสถ์นั้น อาตมาได้เดินทางไปบอกบุญกับญาติโยมตามสถานที่ต่างๆรวมทั้งลูกศิษย์ที่รู้จักมักคุ้นกันถึงจังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอสิชล ตำบลฉลอง วัดเจย์ดี ซึ่งวัดเจดีย์ก็ไม่แตกต่างกับวัดทั่ว ๆ ไปในประเทศไทยแต่สิ่งที่แปลก และเป็นที่เคารพศรัทธา นับถือ ของชาวบ้านในละแวกนั้นและผู้คนทั่วสาระทิศ คือ ไอ้ไข่ ซึ่งมีการเล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนว่าสถานที่ตั้งวัดเจดีย์ปัจจุบันนั้น เมื่อก่อนได้มีหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ดังสายปักษ์ใต้ได้มาปักกลดเดินธุดงค์อยู่บริเวณนั้น ส่วนไอ้ไข่เท่าที่ทราบประวัติเรื่องราวของ “ไอ้ไข่” เล่าสืบต่อกันมาว่า ที่ตั้งวัดเจดีย์แห่งนี้เมื่อก่อนหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ เกจิอาจารย์ดังสายปักษ์ใต้เมื่อครั้งเดินทางกลับมาจากกรุงศรีอยุธยาแวะมาปักกลด เดินธุดงค์อยู่บริเวณนี้เพื่อพักแรม ส่วนไอ้ไข่อายุก็ราว ๆ 10 ขวบ เป็นลูกศิษย์ติดตามหลวงปู่มาด้วยปรากฏว่าสถานที่แห่งนี้พบว่ามีทรัพย์สมบัติมากอยู่ ศาสนสถานก็เป็นสถานที่ซึ่งสำคัญมากจึงให้ไอ้ไข่สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติและที่แห่งนี้เอาไว้หลังปี 2500 ผู้ใดที่เข้ามานอนพักค้างอ้างแรมในวัดเจดีย์ ถ้าไม่เอ่ยชื่อไอ้ไข่ บอกกล่าว ขอขมาแล้วล่ะก็ มักจะนอนไม่ได้ เรียกว่าถูกกวนทั้งคืน เคลิ้มๆจะหลับก็จะรู้สึกเหมือนมีเด็กมาตีหัวบ้าง ดึงขา…ดึงแขนบ้างราวปี 2526 เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ยุคนั้นได้จัดสร้างเหรียญบูชาไอ้ไข่รุ่นแรก พร้อมพัฒนาวัดเรื่อยมา ท่ามกลางพื้นที่สีชมพูยังมีความเคลื่อนไหวของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ หน่วยงานราชการจึงส่งทหารพรานหนึ่งกองร้อยมาตั้งฐานปฏิบัติการชั่วคราวที่วัดเจดีย์ปรากฏว่า ตกดึกเมื่อบรรดาทหารกำลังหลับก็รู้สึกว่ามีเด็กมาดึงขา ดึงแขน เอาปืนมาเล่นตีหัวบ้าง ผลักปืนให้ล้มบ้าง จนนอนกันไม่ได้ทั้งคืนปรากฏว่า ตกดึกเมื่อบรรดาทหารกำลังหลับก็รู้สึกว่ามีเด็กมาดึงขา ดึงแขน เอาปืนมาเล่นตีหัวบ้าง ผลักปืนให้ล้มบ้าง จนนอนกันไม่ได้ทั้งคืนสอบถามชาวบ้านเล่าให้ฟังก็ได้ความกระจ่าง เอ่ยชื่อ “ไอ้ไข่” ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่ากับเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้น


พระครูสมุห์อำนวย โชติปัญโญ เจ้าอาวาสวัดโปรยฝน กล่าวว่า อาตมาก็ได้ทำบุญเช่าผ้ายันต์รูปไอ้ไข่ใส่กรอบมาไว้ที่หน้ากุฎิ ซึ่งก็มีญาติโยมมาเจิมรถใหม่บ้างมาขอพรจากสิ่งศักดิ์ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อของเขาอย่างต่อเนื่อง และได้เห็นภาพของไอ้ไข่ก็เขามาสอบถาม อาตมาก็บอกญาติโยมไป ถึงประวัติของไอ้ไข่ ก็มีญาติโยมเข้ามากราบไหว้ไอ้ไข่ขอโชคลาภ และพรให้สมหวังในหน้าที่การงานรวมทั้งบนบานศาลกล่าวให้ได้ดังใจมุ่งหวัง และกลับมาแก้บนจนมีการกันพูดต่อ ๆ กันไป ซึ่งก็มีญาติโยมตลอดจนประชาชนทั่วไปต่างทราบข่าวก็พากันมาร่วมกันทำบุญสร้างโบสถ์และขอโชคลาภจากไอ้ไข่เยอะขึ้นทุก ๆ วัน จึงได้สั่งให้ช่างปั้นรูปเหมือนไอ้ไข่่สูง 80 เซนติเมตร เป็นแบบจำลองไว้ให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชา ของที่ชอบไอ้ไข่ ก็จะมี ขนมเปี๊ยะ น้ำแดง ชุดทหาร ตำรวจ ไก่ปูนปั้น หนังสติ๊ก และ ประทัด
นอกจากนี้สิ่งของต่าง ๆ ที่มีชาวบ้านตลอดจนประชาชนทั่วไปนำมาถวายและแก้บนไอ้ไข่ ที่มีทั้งชุดไทย ชุดทหารเด็ก ของเล่นเด็ก หนังสติ๊ก น้ำแดง ขนมเปี๊ยะขนมหวาน ซึ่งอาตมาอยากมอบสิ่งของและชุดต่าง ๆ ที่ได้จากการแก้บนนำไปให้กับหน่วยงานต่าง ๆ เช่นโรงเรียน หรือสถานสงเคราะห์เด็กที่ต้องการ รวมทั้งน้ำแดงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมดีกว่าที่จะปล่อยทิ้งไว้ให้เสียประโยชน์ ซึ่งขณะนี้มีจำนวนมาก จึงอยากให้ผู้ที่สนใจทำหนังสือมาพร้อมระบุจำนวนขอรับไปใช้งาน โดยเฉพาะสถานสงเคราะห์ สถานรับเลี้ยงเด็ก เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ดีกว่าทิ้งไว้อาจจะเกิดชำรุดเสียหายได้ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 084-670884 ส่วนพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาอยากร่วมบริจาคสร้างอุโบสถหลังใหม่ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีเลขที่ 326-231545-1 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหนองเสือ เจริญพร…