รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบทลงพื้นที่เร่งปรับผิวจราจรให้ ปชช.ใช้เส้นทางได้ชั่วคราว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 มิถุนายน 2563 นายประศักดิ์ บัณฑุนาค รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท นายภาคภูมิ ผ่านสำแดง วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 1 (ปทุมธานี) และเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบวิเคราะห์ดินและการประเมินสถาพการรับน้ำหนักของถนน เพื่อออกแบบปรับผิวจราจรหลังพื้นถนนทรุดตัวลึก 3 เมตร ที่ถนนเลียบคลองสิบ (ฝั่งตะวันตก) กม.8+50 ทางหลวงชนบทสาย ปท.3027 บริเวณเทศบาล13 ซอยแม่บุญสืบ ม.5 ต.บึงบา อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
กรมทางหลวงชนบทได้นำเครื่องจักร รถแบ็คโฮขุดรื้อผิวถนนที่ทรุดตัวหลังเกิดภัยแล้งหนักติดต่อกัน 6 เดือน โดยเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบวิเคราะห์ดินและการประเมินสถาพการรับน้ำหนักของถนนได้นำรถสำรวจสภาพโครงสร้างชั้นทางด้วยตุ้มน้ำหนักกระแทก (Falling weight deflection) ซึ่งเป็นเครื่องมืออุปกรณ์วัดค่าการแอ่นตัวของถนนจากแรงตกกระแทก และชุดวัดความต่างศักย์ไฟฟ้าเพื่อประเมินค่าความชื้นและความแตกต่างของน้ำในชั้นดินใต้ผิวถนน เพื่อที่จะนำผลที่ได้ไปออกแบบการปรับปรุงผิวจราจรให้มั่นคงแข็งแรงประชาชนสามารถใช้เส้นทางได้อย่างปลอดภัยต่อไป
ด้าน นายประศักดิ์ บัณฑุนาค รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า กรมทางกลวงชนบทได้รับทราบว่า เมื่อคืนวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 พื้นถนนได้ทรุดตัวประมาณครึ่งเลนได้ไหลลงคลองไป แขวงทางหลวงปทุมธานีได้นำแนวกันปิดล้อมให้ประชาชนได้รับทราบและเลี่ยงเส้นทาง กลางคืนมีไฟแสงสว่าง ให้ผู้ใช้ทางสัญจรได้เห็น ป้องกันอุบัติเหตุ พร้อมรายงานเข้าไปยังส่วนกลางให้รับทราบและได้เตรียมเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์
จากการสำรวจพบว่าความลึกของแนวทรุดลึกกว่า 3 เมตร ยาว 70 เมตร เบื้องต้นการทำงานคือ ขุดลอกผิวทางเดิมที่ชำรุดออกเพื่อลดน้ำหนักของโครงสร้างชั้นทางจากนั้นปรับเกรดผิวจราจรยาว 100 เมตร เพื่อให้รถของประชาชนสัญจรผ่านใช้เส้นทางได้ หลังจากนั้นจะปูยางแอสฟัลท์เพื่อป้องกันฝุ่นละออง ให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางได้ชั่วคราว คาดว่าอีก 2 วันจะเสร็จ
ในขณะเดียวกันหน่วยงานทางหลวงชนบทในส่วนกลางได้นำทีมตรวจสอบวิเคราะห์ดิน และการประเมินสถาพการรับน้ำหนักของถนน เพื่อที่จะได้ทำการออกแบบแก้ไข แบ่งเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกเราจะนำเงินฉุกเฉินมาปรับคืนสภาพผิวถนน ให้ประชาชนสามารถสัญจรใช้เส้นทางได้ประมาณ3-5 ปี ส่วนช่วงที่สองจะได้ตั้งงบประมาณปี 65 ต่อไป หรือเงินเหลือจ่ายปี 64 เพื่อคืนสถาพผิวจราจรให้เป็นปกติเหมือนเดิม การแก้ไขปัญหานั้นมีหลายวิธี เราได้ประเมินถึงความคุ้มค่าและความโปร่งใส ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ และขอฝากชาวปทุมธานีที่อาศัยริมถนนเลียบคลองระบายน้ำ หากพบเห็นรอยแตก ของผิวจราจร โดยนิ้วชี้สามารถสอดลงไปในรอยแตกแยกของผิวจราจร เพื่อป้องกันพื้นถนนทรุดลงคลอง สามารถแจ้งกรมทางหลวงชนบท สายด่วน 1146.