ม็อบครูแต่งดำ บุกสภา ค้านร่าง พ.ร.บ.ศึกษาฯ ฉบับใหม่

Wauwatosa เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ต.ค.62 ที่บริเวณหน้าอาคารัฐสภา ถนนเกียกกาย กลุ่มครูและบุคลากรการศึกษาในนามกลุ่ม รวมพลคน 38 ค.(2) ใส่ชุดดำกว่า 200 คน รวมตัวมาเพื่อยื่นเรื่องคัดค้านร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับ…พ.ศ… โดยส่งตัวแทนนำโดย นายธนชน มุทาพร ผอ.(สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ชัยภูมิ เขต 1 ในฐานะประธานชมรม ผอ.เขตการศึกษาแห่งประเทศไทย เข้ายื่นเรื่องกับ 6 พรรคฝ่ายค้าน โดยระบุว่า ประเด็นหลัก 8 ข้อ เรียกร้องที่คัดค้าน อาทิ ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และให้ปรับปรุงมาตราที่ไม่ทันเหตุการณ์ แทนการยกร่างทั้งฉบับ เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ไม่มีครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้ามามีส่วนยกร่าง จึงอาจสร้างความขัดแย้งระหว่างบุคลากรทางการศึกษากับชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ รวมถึงการยกเลิกใบประกอบวิชาชีพครูให้มาใช้ใบรับรองความเป็นครู ซึ่งเกิดความแคลงใจในศักดิ์และสิทธิ์ว่าเทียบเท่ากันหรือไม่ ขณะที่วิชาชีพอื่นใช้ใบประกอบวิชาชีพเช่นแพทย์ใช้ใบประกอบโรคศิลปะ วิศวกรใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม (ก.ว.) รวมถึงการเปลี่ยนชื่อ ตำแหน่ง จาก ผอ.สถานศึกษาเป็นครูใหญ่ โดยเฉพาะมาตรา 4 ในร่าง กำหนดให้มีตำแหน่งแค่ครูและครูใหญ่เท่านั้น แต่ตำแหน่งอื่นถูกตัดทิ้งหมด หรือมาตรา 38 ให้มีองค์กรครูเรียกว่า คุรุสภา ซึ่งต้องมีตัวแทนคณะกรรมการคุรุสภามาจากครูโดยตรง หรือมาตรา 79 ที่คณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติไม่ได้กำหนดให้มีกรรมการที่มาจากตัวแทนครู และบุคลากรทางการศึกษาอื่นเข้าร่วมเป็นกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ ขาดการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบวิชาชีพ ทั้งที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงอย่างแท้จริง และขอให้ยุติการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่…พ.ศ… โดยให้คงข้อบัญญัติบางส่วนใน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติปี 2542 เช่น คำว่า ใบประกอบวิชาชีพ ตำแหน่ง ผอ. ให้ยกเลิกตำแหน่งผู้ช่วยครูใหญ่ โดยให้เป็นรองผอ.การโรงเรียนตามเดิม และต้องมาจากวิชาชีพครูเท่านั้น ให้มีกรรมการจากตัวแทนครูในคณะกรรมการนโยบายศึกษาแห่งชาติในสัดส่วนที่เหมาะสม

ด้านตัวแทน 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน อาทิ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า การยุบเลิกโรงเรียนประถม มัธยม เป็นการแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด เพราะการศึกษาจะต้องมีการกระจายอำนาจ ไม่ใช่กระจุกอยู่ที่ส่วนกลาง รัฐบาลนี้เข้ามาแก้ปัญหาหรือเข้ามาสร้างปัญหา กระทรวงศึกษาธิการไม่ใช่ที่ทดลองงาน เพราะผ่านมา 3 เดือนแล้ว ผลงานยังไม่ปรากฏ การแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฯ เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่จะเสนอเข้ามาสภา แต่ถ้าไม่ได้เสียงจากฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรคเล็กสนับสนุนรัฐบาลไม่มีทางผ่านไปได้ ฉะนั้นหาก รมว.ศึกษาจะคิดแก้กฎหมายเรื่องนี้โดยไม่คิดหน้าคิดหลังก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ เพราะเราต้องการแก้เรื่องการศึกษา ไม่ใช่ต้องการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี

“ทุกวันนี้รัฐบาลควรจะแก้ปัญหาบุคลากร เช่น ครู ภารโรง แต่กลับไปแก้ที่โครงสร้างแทน ผมขอท้าถ้าจะโหวตกันในสภารับรองไปไม่รอดแน่” นายมงคงกิตติ์ กล่าว

ด้าน นายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมกรรมาธิการการศึกษา และจะทำให้เป็นวาระแห่งชาติให้ได้ โดยต้องให้นายกฯ เป็นประธานการแก้ไข การเมืองวันนี้ไม่มีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล แต่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้สำเร็จให้ได้…