ปส.แถลงจับ 3 คดียาเสพติด ยึดไอซ์ 1 ตัน พัสดุยัดยาไอซ์ในนาฬิกาส่งไปนอก

Lyrica tablets buy online เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 13 พ.ย.62 ที่ลานแถลงข่าวหน้า กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.บัณฑิต ทิศาภาค ผบก.สกส. พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ตำรวจภ.6 ตม. กอ.รมน. ศุลกากร ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดีเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 3 คดี ได้ผู้ต้องหา 7 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ 1,000 กิโลกรัม กัญชา 1 กิโลกรัม ยาบ้า 40,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 2 คัน รถยนต์ 1 คัน และตรวจการยึดพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศ พบของกลางไอซ์ น้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม ซุกซ่อนในนาฬิกา

พล.ต.ท.วิสนุ กล่าวว่า คดีแรก เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่าง เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.6 สำนักปราบยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. และ เจ้าหน้าที่ศุลกากรแม่สอด ร่วมจับกุมตัวนายเกรียงไกร เพชรจันทรังษี อายุ 22 ปี ชาวบ้าน ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา และนายวรชุน แซ่ว่าง อายุ 21 ปี ชาวบ้าน ต.ขุนควร อ.ปง จ.พะเยา และนายคม แซ่หลี อายุ 35 ปี เชื้อชาติม้ง สัญชาติ เมียนมา ภูมิลำเนาอาศัยอยู่ที่ บ้านดอยยา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พร้อมของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ อีซูซุ จำนวน 2 คัน โดยจับกุมได้บริเวณหน้าตลาดเขาทราย แยกเขาทราย ทับคล้อ ถนนหมายเลข 11 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เวลาประมาณ 16.30 น. ต่อเนื่องริมถนนหมายเลข 11 หลัก กม.120+200 ต.วังงิ้วใต้ อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร และบริเวณพื้นที่นาข้าว ต.วังงิ้วใต้ อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร (10 พ.ย.)

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ตำรวจชุดจับกุมได้ติดตามสืบสวนเครือข่ายนักค้ายาเสพติดที่เคยถูกจับกุมก่อนหน้ามาโดยตลอด จนพบว่าจะมีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.พะเยา ขนส่งและลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบน ส่งมอบให้กับลูกค้าใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะใช้เส้นทางจากพื้นที่ จ.เชียงราย พะเยา แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก นครสวรรค์ ก่อนเข้าสู่พื้นที่ตอนในประเทศ เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าของผู้ว่าจ้าง จึงได้ดำเนินการสืบสวนจับกุม กลุ่มบุคคลดังกล่าว

กระทั่ง วันที่ 10 พ.ย. เวลาประมาณ 16.30 น. เจ้าหน้าที่พบรถต้องสงสัยลักษณะขับตามกันมา บริเวณหน้าตลาดเขาทราย แยกเขาทราย ทับคล้อ ถนนหมายเลข 11 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร จึงเข้าหยุดรถและตรวจค้นพบ

ของกลาง ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม บรรทุกอยู่ท้ายรถยนต์ ซึ่งซุกซ่อนในกระสอบปุ๋ย สีเหลือง ซึ่งขณะสั่งให้หยุดรถนั้น รถยนต์อีกคันที่นำอยู่หน้าได้หลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้นำทาง/สำรวจเส้นทาง/คุ้มกัน การลำเลียงยาเสพติดของกลางที่คนร้ายนำมาจอดทิ้งไว้ได้ที่บริเวณริมถนนหมายเลข 11 หลัก กม.120+200 ต.วังงิ้วใต้ อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร จากนั้นตามจับกุมนายคม ได้ที่บริเวณพื้นที่นาข้าว ต.วังงิ้วใต้ อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางมาสอบสวน จนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหารกลุ่มนี้เป็นเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดกลุ่มเดียวกับ นายกิตติภพ อรรถพลภูษิต และนายทรงยศ แซ่ซ้อง ซึ่ง บก.สกส.บช.ปส. ได้จับกุมพร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวนประมาณ 1,000,000 เม็ด และคีตามีน น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ในพื้นที่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยจะได้ค่าจ้างคนละ 1 แสนบาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายเกรียงไกร นายวรชุน และนายคม ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ขยายผลผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.วิสนุ กล่าวว่า คดีที่สอง เจ้าหน้าที่ บก.สกส.บช.ปส. ร่วมกันจับกุมตัวนายจักรพงษ์ ฮวดลิ้ม อายุ 42 ปี นางสงกรานต์ ฮวดลิ้ม อายุ 38 ปี ภรรยานายจักรพงษ์ น.ส.ธมลวรรณ ขำดำ อายุ 35 ปี และน.ส.หฤทัย ปิยะนุกูล อายุ 37 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 40,000 เม็ด ไอซ์ 2 กรัม กัญชา 1 กิโลกรัม รถจักรยานยนต์ 1 คัน รถยนต์ 1 คัน โดยจับกุมตัวนายจักรพงษ์ และนางสงกรานต์ ได้ที่บริเวณตลาดอ่าวน้อย ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ส่วน น.ส.ธมลวรรณ และน.ส.หฤทัย จับกุมได้บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสาร ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เวลาประมาณ 14.00 น. ต่อเนื่องกัน (12 พ.ย.)

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจาก บช.ปส. ได้ติดตามบุคคลที่พ้นโทษหรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดี ที่มีประวัติต้องโทษเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ยังคงมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก พบว่ากลุ่มผู้ต้องหารายนี้มีการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง และติดต่อกับผู้ต้องขังในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ มีการใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือย ทั้งที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวอีกว่า จากแนวทางการสืบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้เดินทางไปยัง จ.นครพนม และข้ามไปยังประเทศเพื่อบ้านเพื่อติดต่อสั่งซื้อยาเสพติด จากกลุ่มผู้จำหน่ายใน สปป.ลาว โดยมีการสั่งผ่านโซเชียล จากนั้นผู้ค้าจะให้ทีมงานนำยามาส่งมอบให้กลุ่มผู้ต้องหาในพื้นที่เขตนวมินทร์ กทม. เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนติดตามพฤติการณ์จนแน่ชัดว่า มีการส่งมอบยาเสพติดจริงจนสามารถจับกุม นายจักรพงษ์ และนางสงกรานต์ 2 สามีภรรยา ได้ที่บริเวณตลาดอ่าวน้อย ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมของกลางยาบ้า 18,000 เม็ด ไอซ์ 2 กรัม และกัญชา 1 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ ก่อนขยายผมจับกุม น.ส.ธมลวรรณ และ น.ส.หฤทัย ได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์

จากการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายังมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในห้องเลขที่ 43/64 ชั่น 6 ณลญาแมนชั่น ถนนเสรีไทย 68 แขวงและเขตมีนบุรี กทม. อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นพบของกลางยาบ้าเพิ่มอีกจำนวน 22,000 เม็ด จากนั่นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนต่อที่ บช.ปส. จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายจักรพงษ์ นางสงกรานต์ 2 สามีภรรยา และน.ส.หฤทัย เคยเป็นผู้ต้องขังในคดียาเสพติด และเพิ่งจะพ้นโทษออกมา เมื่อปลายปี 61 แต่ยังไม่เลิกพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก จนนำมาสู่การจับกุมในครั่งนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อคอยคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.วัชระ สำหรับคดีสุดท้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ศุลกากร ศรภ. และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานดอนเมือง ตรวจยึดยาเสพติดรายสำคัญทางพัสดุภัณฑ์ส่งผ่านระหว่างประเทศ ตามโครงการ AITF ทำการตรวจยึด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม ได้ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง

พล.ต.ต.วัชระ กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดได้รับแจ้งว่า จะมีการลักลอบส่งยาเสพติดออกนอกประเทศทางพัสดุภัณฑ์ ผ่านบริษัทเอกชนรับส่งพัสดุระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง จึงได้ร่วมกันตรวจสอบพัสดุต้องสงสัยจากประเทศไทยปลายทางประเทศญี่ปุ่น จำนวน 2 รายการ สำแดงสินค้าที่ฝากส่งประเภทนาฬิกาแขวนผนัง แต่กลับพบว่ามีน้ำหนักมากผิดปกติ ซึ่งจากการตรวจสอบนาฬิกาแขวนผนังดังกล่าวโดยละเอียดพบว่าบริเวณกรอบนาฬิกามีท่อเหล็กซึ่งถูกดัดแปลงขึ้นภายในบรรจุยาเสพติด ประเภทเมทแอมเฟตามีน หรือไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 8 กิโลกรัม อยู่ภายในจึงทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากแนวทางการสืบสวนทราบว่าผู้ส่งเป็นชาวจีน 2 คน ปลายทางพัสดุอยู่ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในส่วนนี้ได้ประสานยังตำรวจญี่ปุ่นให้ทำการสืบสวนจับกุมผู้รับแล้ว ในส่วนการติดตามตัวชาวจีนที่ทำการส่งพัสดุทราบว่า 1 ใน 2 ได้เดินทางออกไปยังประเทศมาเลเชีย แล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับชาวจีน ที่เป็นคนส่งพัสดุมาดำเนินคดีในข้อหา พยายามส่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อไป

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวด้วยว่า การจับกุมยาเสพติดในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของทางรัฐบาล และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในทุกรูปแบบ และเพิ่มความเข้มงวด ซึ่งกลุ่มผู้ค้าจะอาศัยช่วงเทศกาลต่างๆ ลำเลียงขนยาเสพติดจากทางภาคเหนือ ลงสู่ภาคใต้ก่อนจะส่งออกประเทศเพื่อบ้าน อย่างไรก็ตาม หากยาเสพติดลอตนี้หลุดออกสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึง 400 ล้านบาท…

ขอขอบคุณ ไทยรัฐ