เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่มูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่าง คลินิกการแพทย์แผนไทย ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ทีมครอบครัวคนรักปทุมได้แถลงส่งทีมลงชิงนายกเทศบาลนครรังสิต และเทศบาลตำบลบ้านกลาง อย่างชัดเจนหวังเปลี่ยนแปลงปทุมธานีให้ดียิ่งขึ้น ปลอดกลุ่มอิทธิพล ยกเลิกระบบนักเลง
ด้านนายเสวก ประเสริฐสุข หัวหน้าทีมทีมคนรักปทุม กล่าวว่า เนื่องจาก คณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง ได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 28 มีนาคม 2564 พร้อมกันทั่วประเทศนั้น ในนามทีมคนรักปทุม ได้ส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่เพียง 2 เขตเท่านั้น ได้แก่ เทศบาลนครรังสิต และเทศบาลตำบลบ้านกลาง ส่วนทุกๆท่าน ทุกๆทีม ในเทศบาลและ อบต.อื่น ๆ เราก็พร้อมให้กำลังใจ ซึ่งทุกท่านสามารถเข้ามาติดต่อให้การสนับสนุนให้กำลังใจ ให้ทุกท่านได้ประสบความสำเร็จ และได้มาทำงานร่วมกันกับทีมคนรักปทุม ซึ่งครอบครับคนรักปทุม จะส่งเฉพาะเขตผู้มีอิทธิพลเท่านั้น เราอยากให้ประชาชนได้อยู่แบบมีความสุข ปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลาย เพื่อไม่ให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลใด ๆ ทั้งสิ้นจะมาข่มขู่กันอีก เลิกระบบนักเลง ระบบกลั่นเกรง ฝากประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้พิจารณา ทั้ง 2 เขตพื้นที่นี้เป็นพิเศษ เราต้องการเปลี่ยนแปลงจังหวัดปทุมธานีให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ส่วน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กล่าวว่า ครอบครัวคนรักปทุม เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของคนปทุมธานีที่อยากเห็นจังหวัดปทุมธานี เจริญรุ่งเรืองพัฒนา เพราะฉะนั้นครอบครัวคนรักปทุมเข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลง ซึ่ง ณ วันนี้เราได้ประสบความสำเร็จแล้วที่ได้รวบรวมความสามัคคีคนปทุมธานีซึ้งได้เลือกผมเข้ามา ผมจะไม่ทำให้พี่น้องปทุมธานีผิดหวัง เพียงแต่รอให้ กกต.รับรองตามกฎหมายเท่านั้น ตนขอแจ้งให้พี่น้องคนปทุมทราบการเลือกตั้งต่อไปนี้ทั้งระดับเทศบาล และ อบตทางตนเองจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนหรือส่งผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีฯ หรือสมาชิกของเทศบาลได้ เพราะจะผิดกฎหมาย หากมีใครไปอ้างชื่อว่าตนเองให้สนับสนุนก็ขอให้ประชาชนอย่าไปหลงเชื่อคงเป็นเรื่องของ นายเสวก ประเสริฐสุข ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมคนรักปทุม ที่จะดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้กำลังจะมีการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น ทั้ง อบต. เทศบาลเมือง เทศบาลนครขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม 2564 เท่าที่ทราบซึ่งครอบครัวคนรักปทุมแข่งขันกันเอง ทำให้นายเสวก ประเสริฐสุข หัวหน้าทีมคนรักปทุม และทีมคนรักปทุมเราก็หนักใจพอสมควร
ส่วนความคืบหน้าคดีที่ นายดำรงค์ ยิ้มแย้ม สมาชิกครอบครัวคนรักปทุม ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต นั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าทางญาติได้ส่งศพนายดำรงค์ ไปชันสูตรยังสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ผ่าพิสูจน์มีความชัดเจน เอาผลโดยละเอียดเพื่อให้ทราบสาเหตุ ของการตายเกิดจากอะไรแน่ ผมเคยพูดเสมอว่า นายดำรงเขาไม่มีโรคประจำตัวอะไร ที่เกี่ยวกับสมอง แต่เขาเป็นโรคไต ก็ต้องรอผลอย่างเป็นทางการออกมา หากมีผลเชื่อมโยงไปถึงการกระทบกระเทือนของสมองจากการโดนทำร้าย ก็ต้องไปว่ากันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 จะมารีบฟ้องศาลคดีลหุโทษมันไม่ใช่ ผมอยากให้ผู้มีอำนาจโอนคดีนี้โอนให้พนักงานสอบสวนกลาง เพื่อสาวให้ถึงผู้บงการ เพื่อให้ล้างกลุ่มอิทธิพลในจังหวัดปทุมธานีให้หมดไปเสียที่ ที่ผ่านมาปทุมธานีก็มีเรื่องยิงกันหรือลอบทำร้ายกันโดยเกี่ยวกับการเมือง หลายครั้งเรื่องก็เงียบระบบนี้ไม่ควรมี
การมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในจังหวัดปทุมธานีทำให้ประชาชนและนักการเมืองรุ่นใหม่ๆเกิดความหวาดระแวง หวาดผวากันไปหมด การเมืองท้องถิ่นก็มีการยิงกันเรื่อยมา เช่น ยิงปลัด อบจ. ยิงนายกบึงทองหลาง ซึ่งทั้งสองคนยังอยู่ในตำแหน่ง ไม่มีความเกรงกลัวกฎหมาย จนมาถึงนายดำรงค์ ที่โดนทำร้ายถึง 3 ครั้ง แต่ก็เงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าไม่มีกลุ่มอิทธิพลในจังหวัดปทุมธานีแล้วจะเรียกว่าอะไร อยากฝากความหวังไว้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งตำรวจปทุมธานีตนเองไม่คาดหวังแล้ว เพราะแค่เพียงเห็นการรีบสรุปสำนวนแล้วส่งฟ้องลหุโทษซึ่งเป็นคดีแพ่งมีโทษเพียงแค่ปรับ ไม่รอผลสรุปของแพทย์ที่คงต้องใช่เวลาบ้างและญาติก็ติดใจสาเหตุการตายที่มาจากการถูกทำร้าย โดยไม่มีความละอายใจบ้างเลย
ด้านความคืบหน้าจาก แหล่งข่าวก็ได้ยืนยันว่าการผ่า พิสูจน์ศพที่ โรงพยาบาลตำรวจ ผลพบว่าสมองบวมมีเลือดคั่งในสมอง สาเหตุคาดว่าเกิดจากการได้รับแรงกระแทกจากของแข็งอย่างรุนแรง.