นายกิตติศักดิ์ หรือกัส ชูเพียร อายุ 31 ปี ผู้เสียหายกรณีถูกตำรวจ สน.ท่าพระ เรียกตรวจปัสสาวะและรีดไถจนเป็นข่าวดัง เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องตนหาเบอร์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จนพบ และโทรศัพท์ไปติดต่อกับท่านด้วยตนเอง ท่านนัดหมายให้ไปพบที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในวันที่ 30 มี.ค. เวลา 10.00 น. โดยตนจะเดินทางไปพร้อมทนายความ และนำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอ หลักฐานการโอนเงินที่คู่กรณีโอนคืนกลับมาให้ นำไปมอบให้ ผบ.ตร. จากนั้นจะแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจทั้ง 7 นาย เบื้องต้นในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา, กักขังหน่วงเหนี่ยว, และกรรโชกทรัพย์
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า วันเกิดเหตุมีตำรวจ 5 นาย กับอาสาสมัครตำรวจบ้าน 2 นาย เป็นผู้ดำเนินการจับตนตรวจปัสสาวะนั้น ตนขอยืนยันว่า ไม่มีอาสาสมัครตำรวจบ้านแต่อย่างใด เพราะช่วงเกิดเหตุตนเห็นคู่กรณีทั้ง 7 คน สวมเครื่องแบบตำรวจเต็มยศ เรื่องนี้ตนมีพยานยืนยัน และตนสามารถจดจำใบหน้าได้ทุกคน
“สำหรับผลการตรวจปัสสาวะที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านแยกไฟฉาย ระบุออกมาว่าเป็นผลบวกในคืนนั้น กระทั่งอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมาตนไปตรวจที่ รพ.เปาโล โชคชัย 4 แล้วเป็นผลลบ เรื่องนี้ตนก็ยังคาใจอย่างมาก ว่า โรงพยาบาลแห่งแรกตรวจพบเป็นผลบวกได้อย่างไร ตนว่าอาจจะมีความไม่ชอบมาพากลบางอย่างเกิดขึ้น สอดคล้องกับการที่ตำรวจชุดดังกล่าวไม่แจ้งให้ตนทราบแต่แรกว่าเอาปัสสาวะตนไปตรวจที่โรงพยาบาลใด เรื่องนี้หากมีการตรวจสอบว่าเป็นเอกสารผลการตรวจปัสสาวะเป็นบวกปลอม หรือเอกสารจริงแต่มีบุคลากรในโรงพยาบาลรู้เห็นเรื่องการบันทึกผลที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง ตนก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับโรงพยาบาลดังกล่าวด้วยเช่นกัน ขอยืนยันอีกครั้งคดีนี้ตนจะเดินหน้าเอาผิดกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด” นายกิตติศักดิ์ กล่าว
ต่อมา เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 ได้มีคำสั่งที่ 86/2563 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 ตามคำสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 7 ที่ 85/2563 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2563 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2563 ได้ปรากฏข่าวทางเว็บไซต์ว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลท่าพระตั้งด่านตรวจสารเสพติดประชาชนทั่วไป และกล่าวหาผู้โพสต์ว่าปัสสาวะสีม่วง ทั้งๆ ที่ผู้โพสต์ไม่ได้เสพยาเสพติด จึงยัดข้อหาและขอเงินจำนวน 15,000 บาท เพื่อให้เรื่องจบและไม่ถูกดำเนินคดี โดยมีหลักฐานการโอนเงินคืน เห็นได้ว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกลั่นแกล้งประชาชน เหตุเกิดพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจนครบาลท่าพระ
ดังนั้น เพื่อให้การสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในข้อ 6 (2) และข้อ 8 (3) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 และเพื่อไม่ให้ข้าราชการตำรวจไปยุ่งเกี่ยวกับการสอบสวนในคดีดังกล่าว จึงให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 โดยมอบหมายให้รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 ที่รับผิดชอบศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแลข้าราชการตำรวจดังกล่าว ดังมีรายชื่อต่อไปนี้ 1.ร.ต.ท.สมจิตร พวงคำ รอง สวป. สน.ท่าพระ 2.ด.ต.ชัยเทพ จุลปาน ผบ.หมู่ ป. สน.ท่าพระ 3.ส.ต.อ.สุวิทย์ วรรณา ผบ.หมู่ ป. สน.ท่าพระ และ 4.ส.ต.ท.วีระพันธ์ เริงศักดิ์ ผบ.หมู่ ป. สน.ท่าพระ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะเสร็จสิ้น…
ขอขอบคุณ ไทยรัฐ